ช่องทางทำกินกับ ผู้ขายน้ำผลไม้สดปั่น





“น้ำผัก-ผลไม้ 100% คั้นสด” เป็นอีกรูปแบบการขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า คั้นกันสด ๆ ให้ดูกันเห็น ๆ ไม่มีน้ำตาล ได้รับคุณประโยชน์ทางโภชนาการล้วน ๆ เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่จะริมทาง หน้าโรงเรียน ตลาดนัด ฯลฯ ที่ไหนก็ทำเงินได้ ซึ่งวันนี้ทีมงานเราก็มีข้อมูลมานำเสนอ...
นิชาภา บ้วนนอก ขายน้ำผัก-ผลไม้ 100% คั้นสด แยกกากจากเครื่องคั้นสด (juicer) อยู่ที่ถนนข้าวสาร เจ้าของร้านนี้บอกว่า ขายน้ำผัก-ผลไม้100% คั้นสดมา 5 ปีแล้ว ซึ่งเป็นรูปแบบนำเสนอที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยที่มาของร้านนี้คือการคั้นน้ำผัก-ผลไม้ให้คุณพ่อดื่มด้วยเครื่องคั้นสดแบบแยกกาก ซึ่งเป็นการทำตามแนวชีวจิต และก็มาคิดว่าน่าจะทำเป็นรูปแบบของธุรกิจค้าขายได้ จึงค้นคว้าศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
การขายในรูปแบบคั้นสดของร้านนี้จะโชว์ผลไม้เป็นชิ้น ๆ หน้าร้าน เกิดขึ้นเพราะเจ้าของร้านก่อนหน้านี้เวลาไปทานน้ำผลไม้ที่ไหนไม่ชอบอ่านเมนู และเมนูส่วนใหญ่ก็เหมือน ๆ กันหมด น่าจะ “ให้เห็นผลไม้สด ๆ แล้วเลือกเอาว่าจะผลไม้ชนิดไหน-อย่างไร” ตามใจคนกิน โดยผู้ขายก็ช่วยแนะนำ และ “เพื่อสุขภาพจริง ๆ จะต้องไม่ใส่น้ำตาล ไม่มีน้ำเชื่อม” ถ้ามีก็จะกลายเป็นน้ำปั่นไป แต่ก็เป็นอีกรูปแบบการขาย ก็สุดแท้แต่
ร้านของนิชาภาจะจัดหน้าร้านโดยออกแบบให้ดูทันสมัย คล้ายร้านผลไม้ในเมืองนอก โดยทำเป็นเคาน์เตอร์ เรียงผลไม้ต่าง ๆ เป็นชั้น ๆ และแปะราคาไว้ เช่น เสาวรส 2 ลูก 10 บาท, ส้ม 3 ลูก 10 บาท, ฝรั่ง ลูกละ 10 บาท, แตงโม ชิ้นละ 10 บาท, สับปะรด ชิ้นละ 10 บาท, มะม่วงสุก ผลละ 25 บาท, แอปเปิ้ล ลูกละ 20 บาท, แก้วมังกร ชิ้นละ 20 บาท, ว่านหางจระเข้ ชิ้นละ 10 บาท, บีทรูท หัวละ 20 บาท , มะเขือเทศ 2 ลูก 10 บาท, แครอท หัวละ 20 บาท, มะเฟือง ลูกละ 20 บาท, ต้นเซเลอรี่ ก้านละ 15 บาท ฯลฯ
และยังมีขิงแก่ มะนาว และมะระขี้นก ซึ่งเป็นตัวเพิ่มรสชาติด้วย
เมื่อลูกค้ามาสั่งก็เลือกผลไม้ได้เลย ซึ่งนิชาภาบอกว่า เจ้าของร้านต้องมีความรอบรู้เรื่องผักและผลไม้ ทั้งในเรื่องคุณประโยชน์และรสชาติ บางครั้งต้องแนะนำลูกค้าได้ว่าอะไรกับอะไรเมื่อคั้นรวมกันแล้วจึงจะอร่อย นอกจากนี้ ที่ร้านนี้ยังได้จัดชุดแบบล้างพิษ หรือดีท๊อก ชุดละ 40 บาท ประกอบไปด้วย แอปเปิ้ลเขียว, แอปเปิ้ลแดง, ขิงแก่, บีทรูท, ว่านหางจระเข้, แครอท และต้นเซเลอรี่ และชุดน้ำพั๊นซ์ ประกอบด้วย มะเฟือง, สับปะรด, ส้ม, เสาวรส, แตงโม, ฝรั่ง, แอปเปิ้ล ราคาชุดละ 40 บาทเช่นกัน
นิชาภาบอกว่าเมนูไม่มีสูตรตายตัว แล้วแต่ลูกค้าสั่ง แต่ที่นิยมก็มี มะม่วง+สัปปะรด, มะม่วง+เสารส, แครอท+แอปเปิ้ล หรือถ้าเป็น 3 อย่างก็มีเสาวรส+สัปปะรด+มะม่วง, ว่านหางจระเข้+สัปปะรด+ส้ม ซึ่งว่านหางจระเข้ตอนนี้เป็นที่นิยมมาก ๆ ในหมู่คนญี่ปุ่น ส่วนราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาชิ้นของผักและผลไม้ตามที่ติดไว้หน้าร้าน หรืออยากจะทานน้ำที่มีเอ็นไซม์มาก ๆ ก็แนะนำน้ำจากต้นอ่อนข้าวสาลี ซึ่งขายเป็นชอต ราคาชอตละ 50 บาท
ในการขายอุปกรณ์การที่จำเป็น นอกจากมีด เขียง ที่คั้นน้ำส้มแล้ว ก็มีเครื่องคั้นน้ำแบบแยกกากที่สำคัญมาก อย่างน้อยต้องมี 2 เครื่องขึ้นไป เพื่อสลับใช้ ป้องกันการอุดตัน และการเสื่อมสภาพที่รวดเร็ว โดยราคาเครื่องก็ตั้งแต่มีหลักพันขึ้นไปจนถึงเป็นหมื่น ตามคุณภาพของเครื่อง
เวลาขาย เมื่อลูกค้าเลือกผลไม้แล้ว เช่น มะม่วง+สัปปะรด ก็ปอกเปลือก เลาะเม็ด ตัดเนื้อผลไม้ออกมาเตรียมไว้ ใส่น้ำแข็งยูนิตในแก้วพลาสติกประมาณ 3 ก้อน แล้วนำเนื้อผลไม้แต่ละอย่างคั้นน้ำสดออกมา เมื่อเสร็จก็คนให้เข้ากันกับน้ำแข็ง ปิดฝาแก้ว ใส่หลอด ถ้าเมนูนี้ก็ขายในราคา 35 บาท ซึ่งแก้วจะมีขนาด 12,16 และ 22 ออนซ์ ราคาก็แตกต่างกันไป ระหว่างที่ขายก็ต้องหมั่นทำความสะอาดเครื่องคั้นสดเรื่อย ๆ เพื่อกันการอุดตัน
นิชาภาบอกว่า การขายน้ำผัก-ผลไม้คั้นสด 100% นั้น ในระยะเริ่มแรกน่าจะลงทุนเพียงผลไม้ 5 อย่าง อาทิ แตงโม, สัปปะรด, ส้ม, แครอท, ฝรั่ง ซึ่งเครื่องคั้นสดแบบแยกกากก็เลือกเอาตามสภาพแวดล้อม การลงทุนผักผลไม้ถ้าประมาณ 500 บาทต่อวัน แล้วขายหมด ก็น่าจะได้เงินประมาณ 1,000 บาท เริ่มแรกก็ขายเล็ก ๆ ก่อน เมื่อไปได้ดีแล้วจึงค่อย ๆ ขยับขยายร้าน “อาชีพแบบนี้กลุ่มลูกค้าและทำเลเป็นเรื่องสำคัญ” ร้านน้ำผัก-ผลไม้ 100% คั้นสดของนิชาภาที่ถนนข้าวสาร อยู่ด้านหน้าร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น (ตรงกลาง) ตรงข้ามกับร้านข้าวสารเซ็นเตอร์ ขายอังคาร-อาทิตย์ ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
และเป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา...!!


ขอบคุณ คุณสุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล

น้ำผลไม้



++กระเจี๊ยบแดง ช่วยย่อยอาหาร ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ เป็นยาบำรุงธาตุ และยาระบาย


++มะนาว เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ช่วยขับลม แก้กระหายน้ำ แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ แก้เลือดออกตามไรฟัน และถ่ายพยาธิ


++กล้วยหอม มีน้ำตาลหลายชนิด มีสารเพคติน มีโปรตีน วิตามินเอและซี ธาตุฟอสฟอรัสและแคลเซียม


++มะเขือเทศ ช่วยย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยระบายและช่วยฟอกเลือด


++ส้มเขียวหวาน แก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย แก้ลมจุกเสียด แน่นเฟ้อ น้ำจากผลให้ วิตามินซี


++เตยหอม ลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ เป็นยาขับปัสสาวะ รักษาโรคเบาหวาน

++ตะไคร้ รักษาโรคหืด แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ และแก้อหิวาตกโรค แก้นิ่ว บำรุงธาตุ แค่นี้ก็คงพอจะเห็นแล้วว่าน้ำผลไม้และน้ำสมุนไพรไทยนั้น นอกจากช่วยคลายร้อนแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย

น้ำสับปะรดปั่น


สับปะรดปั่น เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยชลออนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณดูสดใส ลดอาการ เกิดลมภายในร่างกาย ลดความดันในเลือด

ส่วนผสม

1. สับปะรด หั่นเป็นชิ้นเล็ก สักถ้วยเล็กๆ

2. เกลือ

3. น้ำเชื่อม 2-3 ช้อน

4. น้ำแข็งใส ใส่ตามความชอบว่าจะเย็นมากหรือน้อย

วิธีทำ ก็ไม่ยากคับ

เริ่มด้วยการ นำน้ำต้มสุกใส่เครื่องปั่น เอาเนื้อสับประรดใส่ลงไป จากนั้นเติมเกลือนิดหน่อย ใส่น้ำเชื่อม ตามด้วยน้ำแข็ง หากคุณเป็นคนรักสุขภาพ อาจนำผักมาร่วมก็ได้

นอกจากนี้ น้ำสับปรดปั่น ยังช่วยแก้อาการร้อนใน ได้อีก ทำให้ร่างกายได้รับความสดชื่น และรวมถึงช่วยให้การทำงานระบบขับถ่ายดีขึ้น ดังนั้นเราควรลองหันมาทานน้ำสับปะรดปั่นกันนะครับ

น้ำเต้าหู้


น้ำเต้าหู้ มีประโยชน์ในการช่วยให้คนเรา ชรอการเป็นอันไซม์เมอร์ ซึ่งน้ำเต้าหู้นั้นคนสามารถหาได้จากท้องตลาด มันเป็นผลผลิตจากถั่วเหลือง ที่ปลูกได้โดยธรรมชาติ เป็นพืชที่กากใยสูง นอกจากนี้เราสามารถเอากาก ไปผลิตเป็นอาหารอย่างอื่นได้อีกด้วย
    เป็นที่รู้ว่าน้ำเต้าหู้นั้น มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างยิ่ง ที่จะแนะนำคือน้ำเต้าหู้เพราะว่าเป็นของที่ทำได้ง่าย การหาซื้อถั่วเหลืองก็หาซื้อได้ที่ตลาดทุกแห่ง ราคา ไม่แพง หากอยากจะทานก็หาซื้อได้ทันที แต่หากอยากจะทำเองก็ได้ โดยมีขั้นตอน ที่ไม่ซับซ้อนอะไรมากนัก

    ในที่นี่จะขอแนะนำวิธีทำน้ำเต้าหู้

  1. นำถั่วเหลือง( ใช้ชนิดถั่วเหลืองทั้งเมล็ด ไม่ใช้ถั่วเหลืองซีก) มาคัดเอาสิ่งสกปรก กรวด ทรายดิน ออกให้หมด ล้างให้สะอาด ( เมล็ดที่เสียจะลอยน้ำ คัดทิ้ง ) เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้ นำถั่วเหลืองไปคั่วให้หอม แล้วนำถั่วเหลืองที่คั่วไปแช่ในน้ำสะอาด จะใช้วิธีแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3 ชั่วโมงก็ได้ตามสะดวก จากนั้นนำมายีเอาเปลือกออก ล้างให้สะอาด เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้ การแช่ถั่วเหลืองไม่ควรนานเกิน 2-3 ชั่วโมง ให้สังเกตว่าพอเม็ดถั่วเริ่มพอง อมน้ำเต็มที่ก็จะใช้ได้ ถ้าเราแช่เมล็ดถั่วเหลืองในน้ำนานเกินไปจะทำให้โปรตีนในถั่วจับตัวกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือ โดยให้น้ำท่วมประมาณ 3 เท่าของถั่วเหลือง แช่นานประมาณ 5 - 8 ชั่วโมง


  2. แบ่งถั่วเหลืองพอประมาณใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วใส่น้ำให้พอปริ่มๆถั่วเหลือง ปั่นให้ละเอียด แบ่งปั่นไปเรื่อยๆ หรือ บดด้วยโม่หิน จนถั่วเหลืองหมด


  3. ตวงน้ำ 2 ลิตร นำไปต้มจนเดือดจัด


  4. ระหว่างที่รอ ให้เทน้ำถั่วเหลืองที่ปั่นไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น นำน้ำที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน น้ำจะอุ่นพอดี คั้นเอาแต่น้ำนมถั่วเหลืองแบบคั้นกะทิ แล้วแยกกรองกากออกมา


  5. เทน้ำถั่วเหลืองที่คั้นไว้ไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อ โดยกรองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น เสร็จแล้วเติมน้ำส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน 5. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ( ถ้าต้องการใช้กลิ่นใบเตยดับกลิ่นสาปถั่วเหลือง ใส่ใบเตยตอนนี้ ) ต้มด้วยไฟกลาง พอเริ่มจะเดือด ก็ใช้ไฟอ่อน คุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 90 องศาเซลเชียส ( น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเชียส ) คือต้มให้น้ำถั่วเหลืองร้อนแต่ไม่เดือด ขั้นตอนในการต้มใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที ในขณะต้มต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะไหม้ได้ง่าย พอชิมดูว่าถั่วเหลืองสุกแล้วใส่เกลือครึ่งช้อนชา เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดไฟหรือยกลง เติมน้ำตาลและเกลือป่น ชิมรสตามชอบ การทำน้ำเชื่อมเข้มข้น : โดยใช้น้ำตาลทรายเคี่ยวกับน้ำสะอาด ในสัดส่วน 2:1 ตั้งไฟพอให้น้ำตาลละลายหมดก็พอ ไม่ต้องเคี่ยวนาน มิฉะนั้นสีน้ำเชื่อมจะดำไม่น่าทาน เครื่องปรุงที่ใส่ในน้ำเต้าหู้เพื่อแต่งรสเวลาเสริฟ : ลูกเดือยต้มสุก สาคูเม็ดใหญ่ต้มสุก เม็ดแมงลักละลายน้ำจนพอง วุ้นหั่นเป็นเส้นยาว ลูกบัวต้ม ถั่วแดง ฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้นๆ น้ำเชื่อม ฟรุทสลัด ........ ฯลฯ ( อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่อยากใส่อะไรก็ไม่ต้องใส่ .............. ตามใจชอบ ) งาอบหรือคั่วโรยหน้า
Google PageRank Checking tool